นโยบายข้อมูลส่วนบุคคลสำหรับการใช้คุกกี้

บริษัท ทุนดี จำกัด (“บริษัท”) มีความจำเป็นต้องใช้คุกกี้ในการทำงานหลายส่วนของเว็บไซต์เพื่อรับประกันการให้บริการของเว็บไซต์ที่จะอำนวยความสะดวกในการใช้บริการเว็บไซต์ของท่าน โดยบริษัทรับประกันว่าจะใช้คุกกี้เท่าที่จำเป็น และมีมาตรการรักษาความมั่นคงปลอดภัยของข้อมูลของท่านโดยสอดคล้องกับกฎ หมายที่เกี่ยวข้อง และจะไม่เปิดเผยข้อมูลดังกล่าวให้แก่บุคคลอื่น เว้นแต่เป็นกรณีการใช้คุกกี้บางประเภทที่อาจดำเนินการโดยผู้ให้บริการภายนอก ทั้งนี้ เมื่อท่านเข้าใช้บริการเว็บไซต์ บริษัทจะถือว่าท่านรับทราบและตกลงนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลฉบับนี้แล้ว โดยบริษัทสงวนสิทธิ์ในการปรับปรุงนโยบายฉบับนี้ตามแต่ละระยะเวลาที่บริษัทเห็นสมควร โดยบริษัทจะแจ้งให้ท่านทราบถึงการเปลี่ยนแปลงดังกล่าวผ่านทางเว็บไซต์นี้... 

Always Active

Necessary cookies are required to enable the basic features of this site, such as providing secure log-in or adjusting your consent preferences. These cookies do not store any personally identifiable data.

Functional cookies help perform certain functionalities like sharing the content of the website on social media platforms, collecting feedback, and other third-party features.

Analytical cookies are used to understand how visitors interact with the website. These cookies help provide information on metrics such as the number of visitors, bounce rate, traffic source, etc.

Performance cookies are used to understand and analyze the key performance indexes of the website which helps in delivering a better user experience for the visitors.

Advertisement cookies are used to provide visitors with customized advertisements based on the pages you visited previously and to analyze the effectiveness of the ad campaigns.

(บัตรเครดิต) หนี้นี้ใครครอง

การวางแผนจัดการหนี้บัตรเครดิตในคนรุ่นใหม่ และคำแนะนำเกี่ยวกับวิธีการปลดหนี้

Wealth Done ตอนนี้ มีคำถามจากผู้อ่านทางบ้านส่งมาถามเรื่องการจัดการหนี้มากมายของคนรุ่นใหม่ 

สำคัญที่สุด หนี้ของใครคนนั้นควรจะเป็นคนจัดการใช่ไหมคะ และหนี้ที่เป็นของเราคนรุ่นใหม่ส่วนใหญ่ มักจะมีหนี้จากการใช้จ่ายเกินตัวนิดหน่อย ซึ่งวิธีการง่ายมากนั่นคือรูดจ่ายด้วยบัตรเครดิต แล้วหวังว่าเมื่อมีเงินเดือนหน้าเข้ามาค่อยนำออกมาจ่าย ไปเที่ยวก็รูดบัตรเครดิตผ่อนชำระ 10 งวด หรือตั้งใจซื้อของที่ชอบด้วยการผ่อนชำระ 5-6 งวด ส่งผลให้บัตรเครดิตใบนี้เต็ม ก็ไปเปิดบัตรที่ 2 บัตรที่ 3 

การที่บัตรเครดิตยอมให้จ่ายหนี้ขั้นต่ำแค่ 10% อาจจะฟังดูโอเค แต่ทราบหรือไม่ว่าดอกเบี้ยบัตรเครดิตนั้นมีมูลค่าเท่าไหร่ ข้อมูลดอกเบี้ยบัตรเครดิตวันนี้ สูงสุดคือ 28% เลยนะคะ 

ในบทความของ Wealth Done ตอนที่ผ่านๆ มา ถ้ายังจำกันได้ เรามักจะหยิบเรื่องสูตรมหัศจรรย์ตัวเลข 72 มาเล่าให้ฟัง เป็นสูตรการคำนวณดอกเบี้ยทบต้น เพื่อหาจำนวนปีที่ผลตอบแทนจะทบต้น

เช่น ในการลงทุนที่ผลตอบแทน 10% จะใช้เวลาเพียง 7 ปีกว่า (มาจาก 72 หารด้วย 10) เงินนั้นจะเพิ่มจำนวนเป็นอีกเท่า หรือหากนำเงินไปลงทุนทำธุรกิจที่ได้กำไร 20% เท่ากับว่าใช้เวลา 3 ปีกว่า (มาจาก 72 หารด้วย 20) ที่เงินจะงอกเงยทบต้น 

ในทางเดียวกัน ถ้าดอกเบี้ยที่ต้องจ่ายคืนหนี้บัตรเครดิตเท่ากับ 28% 

นำ 72 หารด้วย 28 แปลว่าใช้เวลาเพียง 2 ปีกว่าๆ จำนวนเงินนั้นจะทบต้น 

มันรุนแรงมากเลยใช่ไหมคะ และกลายเป็นว่าที่เราต้องจ่ายไปทุกเดือนไม่จบไม่สิ้นนั้นคือดอกเบี้ยล้วน ๆ เท่ากับว่าเงิน 10 เปอร์เซ็นต์ที่จ่ายไปเป็นขั้นต่ำในแต่ละเดือนไม่พอจะทำลดเงินต้น ยิ่งจะทำให้ดอกเบี้ยเพิ่มพูนมากขึ้นไป เพราะฉะนั้น สิ่งที่ต้องทำอันดับแรกสุดเวลารายการบัตรเครดิตมาส่งที่บ้าน คือให้ถามตัวเองว่า นี่คือสิ่งที่ต้องใช้ (need) หรือมันคือสิ่งที่ต้องการ (want) ซึ่งคนที่ใช้บัตรเครดิตเกินตัวส่วนใหญ่มักจะพ่ายแพ้ให้กับคำว่า want ทั้งสิ้น

ในฐานะนักการเงินขอแนะนำให้แก้หนี้บัตรเครดิตของใบที่ดอกเบี้ยสูงสุดก่อน ซึ่งดอกเบี้ยของบัตรเครดิตแต่ละใบไม่เท่ากัน และเมื่อตั้งใจจะแก้หนี้ ลำดับแรกสุดคือต้องไม่สร้างเพิ่ม แม้ว่าจะดูเหมือนหักดิบเล็กน้อยถูกมั้ยคะ

จากนั้นมาพยายามลดอันที่ดอกเบี้ยสูงสุดกัน โดยค่าเฉลี่ยของดอกเบี้ยบัตรเครดิตวันนี้ถ้าเป็นของธนาคารใหญ่ๆ หรือธนาคารของรัฐจะอยู่ที่ 18% แต่ถ้าเป็นธนาคารขนาดเล็กหรือแหล่งเงินที่ไม่ใช่ธนาคารดอกเบี้ยอาจจะสูงถึง 28% ซึ่งหลักการคิดดอกเบี้ยจากจำนวนเงินที่ไม่จ่ายหรือคงค้างคือ เขาจะคิดดอกเบี้ยตั้งแต่วันแรกที่คุณรูดใช้บัตรเครดิต ถ้าเป็นไปได้เราควรจ่าย 100% หรือจ่ายคืนให้ได้มากที่สุด แม้บัตรเครดิตบางใบยืดอายุชำระดอกเบี้ยได้ถึง 45 วัน ถึงเวลาครบกำหนดควรจ่าย 100% ให้ได้ 

สำหรับใครที่บอกว่าจ่ายไม่ไหวๆ จริงๆ ก็ไม่อยากจะแนะนำทางนี้นะคะ แต่คนเรามีญาติพี่น้อง อาจจะไปยืมเงินคนสนิทมาปิดหนี้ส่วนนี้ก่อน อย่างน้อยก็ยังพอผ่อนๆ จ่ายได้ ทำยังไงก็ได้ให้ปิดหนี้ของบัตรที่ดอกเบี้ยสูงกว่าก่อน หรือถ้าไม่อยากรบกวนใคร และวงเงินยังพอเหลืออาจจะหยิบยืมเงินจากบัตรเครดิตใบที่ดอกเบี้ยต่ำกว่า มาจ่ายดอกเบี้ยสูง แต่ต้องระวังว่าเวลาถอนเงินจากบัตรเครดิตแต่ละครั้งมีค่าธรรมเนียมในการถอน แถมยังอาจจะเจอดอกเบี้ย 28% และเวลาที่คืนเงินปิดยอดก็อาจจะมีค่าธรรมเนียมอีก มันจุกจิกมาก ทำให้ในความเป็นจริงคุณอาจจะเสียเงินเยอะกว่าเดิมเยอะมากๆ

นอกจากนี้เราจะพบว่าบัตรเครดิตมีรอบวันตัดยอดไม่เหมือนกัน บัตรบางใบตัดวันที่ 10 บางใบตัดวันที่ 20 วันที่ 30 หมายความว่า การใช้จ่ายที่เกิดขึ้นหลังวันที่ 10 ฉันก็ใช้บัตรที่ตัดวันที่ 10 เพื่อเพิ่มเวลาจ่ายชำระซึ่งกว่าบิลจะมาเราจะมีเวลาประมาณ 45 วันในการเคลียร์ นี่คือวิธีการที่เราใช้เป็นประจำ ซึ่งอ่านแล้วไม่ต้องทำตามก็ได้

เรื่องที่น่าสนใจต่อมาคือ บัตรเครดิตบางใบมีสิทธิประโยชน์ที่ตรงกับไลฟ์สไตล์ เช่น ถ้าชอบกิน บัตรบางใบจะได้รับส่วนลด 10% จากร้านอาหาร หรือถ้าชอบเดินทาง บัตรบางใบเปลี่ยนคะแนนเป็นตั๋วเดินทางได้ หรือบัตร travel card ที่ให้อัตราแลกเปลี่ยนที่คุ้มค่าและใช้งานสะดวกเมื่อต้องเดินทางไปต่างประเทศ และล่าสุดมีบัตรประเภทที่ให้สิทธิการดูสตรีมมิงของ Netflix, WeTV, iQIYI ด้วยนะ

การใช้บัตรเครดิตที่ดีคือ พยายามจ่ายคืนทั้ง 100% เมื่อถึงเวลาปิดครบงวด และมีวินัย ไม่ใช้จนเกินความจำเป็น คุณอาจจะสร้างวินัยด้วยการตั้งเป้าว่าเดือนนี้ขอใช้บัตรเครดิตสำหรับซื้อของที่ชอบสัก 5,000 บาท เป็นต้น 

แล้วถ้าเป็นหนี้เยอะมาก ไม่สามารถหาเงินมาปิดได้ควรเริ่มจากอะไร

จริงๆ ไม่ได้อยากแนะนำอย่างนี้นะคะ แต่ถ้าสมมติว่าไม่ไหวจริงๆ วงเงินมันใหญ่จริงๆ วิธีแรกอาจจะนำบ้านไปวางเพื่อหาเงินมาปิดหนี้ เพราะยังไงแล้วดอกเบี้ยบ้านก็ถูกกว่าดอกเบี้ยบัตรเครดิต วิธีที่สองใช้สินเชื่อรถยนต์ ทั้งสองวิธีนี้ดอกเบี้ยอาจจะน้อยกว่าดอกเบี้ยบัตรเครดิตก็จริงแต่จะทำให้หนี้กลายเป็นหนี้ที่ก้อนใหญ่ขึ้น และเมื่อถึงวันหนึ่งเราอาจจะรู้สึกว่าไม่ไหว จึงอยากแนะนำว่าหากเป็นไปได้ขอให้จำกัดอยู่ในบัตรเครดิตเพราะว่าวงเงินมันน้อยหน่อย แล้วก็ใช้ให้อยู่ในวงเงินให้ได้

เรื่องถัดไปคือการจัดการหนี้สินอย่างอื่น อย่างที่บอกว่าหนี้อะไรก็แล้วแต่ ไม่ว่าจะซื้อมาถูกหรือแพงไม่รู้แต่ขอให้ได้ใช้ เช่น ซื้อบ้านก็ต้องเป็นบ้านที่ตั้งใจจะอยู่ อย่าเพิ่งไปซื้อเพื่อเก็งกำไรว่าจะปล่อยเช่า ขอให้ลืมเรื่องนั้นไปก่อน

ถ้าซื้อแล้วใช้อย่างน้อยที่สุดก็เป็นความสุขทางใจ ของหลายอย่างมีราคาเพิ่มขึ้นตามกาลเวลาหรืออย่างน้อยราคาก็ไม่ได้ลดลง การซื้อของเหล่านั้นไม่ว่าจะเป็นที่ดินหรืออะไรก็ตาม จะยังไม่ค่อยน่ากลัว ขณะเดียวกันก็มีของหลายอย่างที่ซื้อแล้วราคาลดลงอย่างรวดเร็ว เราต้องศึกษาและทำความเข้าใจด้วยนะคะ

จะว่าไปเรื่องของหนี้บัตรเครดิตไม่ได้เกิดแค่ในคนรุ่นใหม่ และไม่ใช่เป็นเรื่องของเด็กๆ เลย ผู้ใหญ่หลายคนก็ยังวนเวียนบัตรเครดิต ที่น่าตกใจมากก็คือหลายคนทำธุรกิจค้าขายแล้วใช้บัตรเครดิตเป็นเงินหมุน 

เรื่องนี้สำคัญมาก คุณต้องเข้าใจว่าทำไมเราจึงไม่ควรใช้บัตรเครดิตเป็นเงินหมุน เพราะดอกเบี้ยมันแพงมาก หากคิดจะค้าขายควรจะเริ่มจากทุนตัวเองก่อน ไม่ควรเอาอะไรมาเป็นภาระโดยเฉพาะดอกเบี้ยจากบัตรเครดิต เมื่อไหร่คุณไปรูดบัตรเครดิตมา 4 แสนแล้วพยายามเริ่มทำธุรกิจจาก 4 แสนบาท ลองคิดดูว่า 28% ของเงิน 4 แสนคือเท่าไหร่ นี่แทบจะเป็นเรื่องต้องห้าม ห้ามทำและไม่อยากให้ทำเลย ซึ่งหลายคนคิดว่าเขาทำ margin ได้ ก็อาจจะได้ แต่ถ้าคุณเจอเหตุการณ์อย่างโควิดคุณสะดุดทันทีเลย ร้านเปิดไม่ได้ทันที เพราะฉะนั้นหากคิดจะเริ่มธุรกิจอะไร เราอยากให้เริ่มจากทุนส่วนตัวก่อน

ก่อนจะจากกันไป ขอฝากเรื่องเครดิตบูโร อธิบายง่ายๆ ก็คือ คนที่เป็นหนี้บัตรเครดิตเยอะ ติดนาน ไม่ยอมจ่าย ซึ่งมีโอกาสที่ทางธนาคารจะฟ้อง ผลจากการติดเครดิตบูโรทำให้จากนี้ไปจะทำธุรกรรมอื่นๆ ในอนาคตไม่ได้ เช่น การขอกู้บ้าน หรือแค่เปิดบัญชีก็อาจทำไม่ได้เพราะถือว่าเป็นบุคคลที่มีประวัติว่าไม่มีวินัยทางการเงิน 

มีกรณีศึกษาหนึ่ง เขาติดเครดิตบูโรตั้งแต่สมัยเด็กๆ โดยที่เขาก็ไม่รู้ตัว ต่อมาเขาเป็นเจ้าของธุรกิจจะมาทำธุรกรรมเช่าซื้อรถยนต์กับธนาคารปรากฏแบงก์ไม่ให้ผ่านเพราะติดเครดิตบูโร ถ้าจำไม่ผิดเป็นเงินกู้เพื่อการศึกษา ซึ่งเขาไม่จ่ายและทำตัวไม่รู้เรื่องไป ในที่สุดคือพอมากู้ซื้อรถก็ซื้อไม่ได้ ซึ่งหากมีชื่อติดเครดิตบูโรแล้วยังไงก็แก้ไขไม่ได้ 

สิ่งที่แก้ได้คือเขาต้องกลับไปคืนเงินกู้นั้น ซึ่งพอเวลาล่วงเลยมาเป็นสิบปี ทำให้ดอกเบี้ยมีจำนวนมหาศาลมาก นี่คือเรื่องที่คนไม่ค่อยทราบกัน แล้วหลายครั้งที่บางทีไม่ใช่แค่คดีเงินกู้ บางทีศาลฟ้องคุณเสร็จแล้วคุณไม่รู้ตัว คุณกลายเป็นคนติดแบล็กลิสต์แล้ว เงินจะคืนก็ไม่รู้อยู่ไหนแล้ว ก็ต้องคอยระวังไม่ให้เกิดเพราะมันจะติดตัวไปตลอดชีวิต


WEALTH DONE คอลัมน์ที่อยากผลักดันให้คนหันมาวางแผนการเงิน หากคุณมีคำถามเกี่ยวกับเรื่องการเงินการลงทุนที่เกิดขึ้นรอบตัวและสงสัยใคร่รู้เป็นพิเศษ ส่งมาบอกพวกเราได้ที่ hello@capitalread.co หรือทุกช่องทางโซเชียลมีเดียของ Capital แล้วรออ่านคำตอบพร้อมกันทุกวันพฤหัสบดี เว้นวันพฤหัสบดี ที่ capitalread.co

Writer

อุปนายกสมาคมนักวางแผนทางการเงินไทย กรรมการอิสระ และที่ปรึกษาทางการเงินผู้อยากให้คนไทยหันมาวางแผนทางการเงิน ขณะเดียวกันเธอก็เชี่ยวชาญในการวางแผนอ่านหนังสือและดูซีรีส์อย่างไรให้จบภายในหนึ่งคืน

Illustrator

กราฟฟิกที่พยายาม ประคองสติ เพื่อค้นหาสไตล์