21 หมุดหมายสำคัญที่ร้อยเรียงจนทำให้มะลิเคียงข้างคนไทยมานานกว่า 60 ปี
The Journey of Mali
การดื่มนม รวมถึงการกินอาหารและดื่มเครื่องดื่มที่มีส่วนผสมของนมถือเป็นเรื่องปกติในยุคปัจจุบัน แต่เชื่อไหมว่าหากนั่งไทม์แมชชีนย้อนกลับไปเมื่อ 6 ทศวรรษก่อน คนไทยบริโภคนมีเพียง 1.4 กิโลกรัม ต่อคนต่อปีเท่านั้น ทำให้คนไทยจำนวนมากเกิดภาวะทุพโภชนาการด้วยเศรษฐกิจที่ยังไม่เฟื่องฟูอย่างปัจจุบัน
ความรักในการเกษตรและความต้องการให้คนไทยเข้าถึงนมคุณภาพดีตรงนั้นเองที่ทำให้พลเอก สุรจิต จารุเศรนี ก่อตั้งบริษัท อุตสาหกรรมนมไทย จำกัด ร่วมกับพันธมิตรจาก 2 ประเทศขึ้น ได้แก่ นักลงทุนชาวออสเตรเลียอย่าง The Australian Dairy Produce Board (ปัจจุบันเปลี่ยนชื่อเป็น Australian Dairy Corporation) และนักลงทุนชาวมาเลเซีย ซึ่งก็คือครอบครัวของนายซอ ฮก ซิว (ซอ สิวายุ)
ไม่นานหลังจากนั้น คนไทยก็ได้รู้จักกับนมข้นหวานขาวมัน หอมนัวแบรนด์ไทยอย่าง ‘มะลิ’ ที่แม้ช่วงแรกจะมีแบรนด์ต่างประเทศครองตลาด แต่มะลิก็สามารถครองใจผู้คนจนกลายเป็นแบรนด์อันดับ 1 และอยู่คู่คนไทยมานานกว่า 60 ปี
หากมองจากมุมมองผู้บริโภคที่มีนมข้นหวานตรามะลิให้ทานคู่กับอาหารและเครื่องดื่มอยู่เสมอ เราอาจมองว่ามะลิเดินบนเส้นทางสายนมข้นหวานนี้มาอย่างไม่ยากลำบากนัก แต่หากซูมดูเส้นทางสายนมข้นหวานของมะลิ เราจะเห็นว่าตลอดทางเดินนั้นเต็มไปด้วยขวากหนามมากมาย ไม่ว่าจะวิกฤตต้มยำกุ้ง ผู้ถือหุ้นถอนตัว หรือวิกฤตอุทกภัย
แต่มะลิคงเป็นดั่งต้นมะลิที่ยิ่งโดนตัดกิ่งก้านสาขา และยิ่งไร้น้ำชโลมรดรากใบมากเท่าไหร่ ต้นมะลิก็ยิ่งออกดอก ส่งกลิ่นไปไกลและหอมยาวนานมากเท่านั้น มะลิจึงอยู่เคียงคู่ครัวไทยและคนไทยมายาวนานขนาดนี้ เคล็ดลับของมะลิไม่ใช่เพียงความมุ่งมั่นผลิตสินค้าคุณภาพเพื่อคนไทยเท่านั้น แต่เป็นเพราะมะลิกล้าที่จะออกนอกกรอบ พร้อมคิดค้นนวัตกรรมใหม่ๆ ปรับตัวให้เข้ากับโลกและยุคสมัย เพื่อเป็นผู้นำของวงการนี้
เราจึงอยากชวนทุกคนค่อยๆ ติดตามเส้นทางความหวานหอมกว่า 60 ปี ของมะลิต้นนี้ไปพร้อมๆ กัน ว่าตลอดเส้นทางที่เราว่ามานั้น ต้นมะลิต้นนี้งอกงามขนาดนี้ได้อย่างไร
อายุ : 0 ปี
พ.ศ. 2505
- บริษัท อุตสาหกรรมนมไทย จำกัด ก่อตั้งขึ้นโดยการร่วมทุนของ 3 ชาติ ทั้งนักลงทุนชาวไทยอย่างกลุ่มของพลเอก สุรจิต จารุเศรนี นักลงทุนชาวออสเตรเลียอย่างบริษัท ออสเตรเลียน แดรี คอปอร์เรชั่น และนักลงทุนชาวมาเลเซีย ซึ่งคือครอบครัวของนายซอ ฮก ซิว (ซอ สิวายุ)
- พลเอก สุรจิต จารุเศรนี เป็นประธานคณะกรรมการ และผู้ก่อตั้ง
- ก่อตั้งโรงงานแห่งแรกของบริษัทบริเวณถนนสุขุมวิท จังหวัดสมุทรปราการ
อายุ : 3 ปี
พ.ศ. 2508
- โรงงานก่อสร้างแล้วเสร็จและเริ่มผลิตและวางขายนมข้นหวานตรามะลิ
- ช่วงแรกนมข้นหวานตรามะลิผลิตจากวัตถุดิบนำเข้าทั้งสิ้นด้วยต้องการควบคุมคุณภาพ เช่น นำเข้าน้ำตาลจากอังกฤษเพราะต้องการน้ำตาลที่มีขนาดเท่ากันทุกเม็ดเพื่อให้ละลายเข้ากับนมได้ดี
- แต่เพราะต้องการให้นมข้นหวานตรามะลิเป็นนมข้นหวานโดยคนไทยเพื่อคนไทยโดยแท้จริง จึงหารือกับเกษตรกรและผู้ผลิตน้ำตาลเพื่อหาทางออก ในท้ายที่สุดวัตถุดิบในการผลิตเกือบทั้งหมดจึงเป็นวัตถุดิบจากประเทศไทย นอกจากจะทำให้กล่าวได้อย่างภาคภูมิว่านมข้นหวานตรามะลิเป็นสินค้าของคนไทยแล้วยังเป็นการเพิ่มรายได้ให้เกษตรกรและผู้ผลิตไทยด้วย
- ณ ตอนนั้น นมข้นหวานตรามะลิขายในราคากระป๋องละ 3.5 บาท ทำให้ร้านค้าสามารถขายในราคา 3 กระป๋อง 10 บาท ไม่เพียงทำให้นมข้นหวานตรามะลิขายได้ง่ายกว่า เอาชนะแบรนด์ต่างประเทศที่เป็นเจ้าตลาดอยู่แต่เดิม แต่ยังทำให้คนไทยเข้าถึงผลิตภัณฑ์คุณภาพสูงได้ง่ายขึ้น
อายุ : 10 ปี
พ.ศ. 2515
- ผลิตและจำหน่ายนมข้นจืดตรามะลิ
อายุ : 18 ปี
พ.ศ. 2523
- ผลิตนมยูเอชทีตรามะลิบรรจุกล่อง
อายุ : 20 ปี
พ.ศ. 2525
- ทายาทรุ่นที่ 2 พลเอก ณรงค์ จารุเศรนี รับช่วงต่อ
อายุ : 24 ปี
พ.ศ. 2529
- คืนกำไรให้ผู้บริโภคในรูปแบบการชิงโชคผ่านแคมเปญ ‘มะลิแจกแบนซ์’ ถือเป็นสินค้าชนิดแรกๆ ที่มอบโชคเป็นรถเบนซ์จนเป็นภาพจำว่านมตรามะลิคู่กับรถเบนซ์
อายุ : 33 ปี
พ.ศ. 2538
- มีแผนการขยายการผลิตจึงเริ่มก่อสร้างโรงงานแห่งใหม่ที่จังหวัดพระนครศรีอยุธยา โรงงานแห่งที่สองนี้มีเนื้อที่ 35,000 ตารางเมตร ตั้งอยู่บนพื้นที่กว่า 72 ไร่
อายุ : 35 ปี
พ.ศ. 2540
- ขณะที่เริ่มก่อสร้างโรงงานแห่งใหม่นั้นเองเป็นปีเดียวกับที่ประเทศไทยประสบวิกฤตเศรษฐกิจค่าเงินบาทลอยตัวหรือวิกฤตต้มยำกุ้ง บริษัท อุตสาหกรรมนมไทย จำกัด จึงได้รับผลกระทบจากการกู้เงินจากต่างประเทศมาขยายโรงงาน ถือเป็นปัญหาครั้งใหญ่หลวงที่บริษัทเผชิญเพราะเหตุการณ์นั้นทำให้บริษัทต้องแบกรับหนี้สินกว่า 3,000 ล้านบาท
- ผู้ร่วมลงทุนฝ่ายออสเตรเลียถอนหุ้นไปทั้งหมด หุ้นทั้งหมดจึงตกมาอยู่ที่คนไทยซึ่งคือตระกูลจารุเศรนี
อายุ : 40 ปี
พ.ศ. 2545
- ทายาทรุ่นที่ 3 นำโดย พิมพ์ จารุเศรนี, สุดถนอม กรรณสูต และกช จารุเศรนี เริ่มเข้ามาบริหาร
- จากวิกฤตเมื่อปี 2540 แม้หลายคนจะแนะนำว่าพลเอก ณรงค์ จารุเศรนี ประธานคณะกรรมการบริษัทขณะนั้นว่าควรขายโรงงานทิ้ง แต่ด้วยตั้งใจสานต่อเจตนารมณ์ของพ่ออย่างพลเอกสุรจิต พลเอกณรงค์จึงเริ่มจากยุบรวมสำนักงาน 2 ชั้นให้เหลือเพียง 1 ชั้น จัดระบบการบริหารใหม่ ควบคุมค่าใช้จ่ายในส่วนต่างๆ
- จากที่ติดลบก็เริ่มสร้างกำไรและเหลือหนี้สินเพียง 1,300 ล้านบาทภายใน 5 ปี และชำระหนี้ครบทั้งหมดแล้วในปัจจุบัน
อายุ : 43 ปี
พ.ศ. 2548
- ออกผลิตภัณฑ์นมข้นหวานตรามะลิในรูปกล่องเต็ดตรา แพ้ค
อายุ : 45 ปี
พ.ศ. 2550
- ออกผลิตภัณฑ์ครีมเทียมข้นหวานชนิดพร่องไขมันและครีมเทียมพร่องไขมันตรามะลิโกลด์เพื่อตีตลาดใหม่
- ได้รับพระราชทานตราตั้งพระครุฑพ่าห์ เมื่อวันที่ 28 มีนาคม 2550 ซึ่งสะท้อนให้เห็นว่ามะลิเป็นองค์กรที่ดำเนินงานด้วยความซื่อสัตย์ ยึดหลักคุณธรรม และมีสถานะทางการเงินที่มั่นคง รวมถึงอุทิศเพื่อสังคมไทย ซึ่งตราตั้งพระครุฑพ่าห์นี้แต่เดิมไม่ได้พระราชทานให้แก่องค์กรภาคเอกชนมากนัก
อายุ : 49 ปี
พ.ศ. 2554
- หลังจากวิกฤตต้มยำกุ้งในปี 2540 ในปี 2554 ก็เกิดวิกฤตน้ำท่วมใหญ่ที่ทำให้โรงงานที่จังหวัดพระนครศรีอยุธยาเสียหายเกือบทั้งหมด หมายความว่าเครื่องจักรราคาหลายล้านบาททุกเครื่องในโรงงานต้องอยู่ใต้น้ำเป็นเวลานานร่วมเดือน
- ดูเหมือนจะเต็มไปด้วยความสิ้นหวัง แต่ทายาทรุ่น 3 ในตอนนั้นอย่าง พิมพ์ จารุเศรนี ก็ทำให้พนักงานทั้งหมดไม่ย่อท้อ เธอเข้าไปแก้ปัญหาเหตุการณ์ที่โรงงานด้วยตนเองทุกวัน จนสามารถเคลื่อนย้ายสินค้าบางส่วนออกมาได้ รวมถึงยังเดินทางไปตามหาโรงงานผลิตทั้งในและต่างประเทศชั่วคราวเพื่อให้สินค้าไม่ขาดตลาดและรักษาอันดับหนึ่งในตลาดนมข้นหวานนี้ได้
- นอกจากนั้น หลังจากสถานการณ์น้ำท่วมคลี่คลาย ทายาทรุ่น 3 คนนี้ก็เร่งฟื้นฟูและซ่อมแซมโรงงานครั้งใหญ่ ทั้งยังต้องทำด้วยความใส่ใจในทุกขั้นตอนด้วยเป็นโรงงานผลิตสินค้าบริโภคที่ต้องได้มาตรฐานด้านความสะอาดและปลอดภัย
อายุ : 52-53 ปี
พ.ศ. 2557-2558
- ในปี 2557 ออกผลิตภัณฑ์ครีมเทียมข้นหวานชนิดพร่องไขมันสูตรถั่วเหลืองตรามะลิ และเมื่อได้รับผลตอบรับที่ดีโดยเฉพาะในช่วงเทศกาลกินเจ ในปี 2558 จึงออกผลิตภัณฑ์ครีมเทียมพร่องไขมันสูตรถั่วเหลืองตรามะลิ
อายุ : 54 ปี
พ.ศ. 2559
- ปรับโครงสร้างใหญ่อีกครั้งและก่อตั้งบริษัท มะลิ กรุ๊ป 1962 จำกัด เพื่อรองรับการขยายตัวในตลาดต่างประเทศ
- ในปีเดียวกันนั้นเอง มะลิยังออกผลิตภัณฑ์นมข้นหวานและครีมเทียมพร่องไขมันตรา ‘มะลิโปรเฟสชั่นแนล’ เพื่อตอบโจทย์ผู้ประกอบการร้านค้าที่จำเป็นต้องใช้นมข้นหวานและครีมเทียมปริมาณมาก
อายุ : 55 ปี
พ.ศ. 2560
- ออกนวัตกรรมนมข้นหวานหลอดบีบ ‘มะลิ อีซี่ สควีซ’ เพื่อตอบโจทย์คนรุ่นใหม่ที่ต้องการความสะดวกรวดเร็วยิ่งขึ้น
อายุ : 56 ปี
พ.ศ. 2561
- ออกผลิตภัณฑ์นมข้นหวานปราศจากไขมันตรามะลิ ตอบเทรนด์สุขภาพและคนเมือง
- บริษัท มะลิ กรุ๊ป 1962 จำกัด ซึ่งผลิตและจำหน่ายผลิตภัณฑ์นมตรามะลิ และเนยออร์คิดได้รับตราสัญลักษณ์ Thailand Trust Mark ประจำ พ.ศ. 2561 ที่จัดโดยกรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ กระทรวงพาณิชย์เพื่อรับรองว่าสินค้าได้รับการผลิตจากสถานประกอบการที่มีคุณภาพ
อายุ : 57 ปี
พ.ศ. 2562
- ออกผลิตภัณฑ์นมข้นหวานหลอดบีบ ‘มะลิ อีซี่ สควีซ’ 4 รสชาติ ได้แก่ช็อกโกแลต ผสมชาไทย กลิ่นนมเย็น และสูตรปราศจากไขมัน น้ำตาลน้อยกว่า
อายุ : 58 ปี
พ.ศ. 2563
- ออกผลิตภัณฑ์นมข้นหวานชนิดถุงฝาเกลียวเป็นเจ้าแรกในไทย ตอบโจทย์เรื่องความสะดวกรวดเร็ว
อายุ : 59 ปี
พ.ศ. 2564
- ร่วมกับแบรนด์ระดับโลกอย่างโอวัลตินเพื่อออกผลิตภัณฑ์นมข้นหวาน มะลิ โอวัลติน อีซี่ สควีซ สูตรนมสด เจาะตลาดกลุ่มครอบครัวและเด็กรุ่นใหม่
- จากที่แต่เดิมมะลิได้การรับรองมาตรฐานสากลทั้ง ISO 22000, HACCP, HAL-Q และ HALAL ฯลฯ อยู่แล้ว การเข้าร่วมทำงานกับแบรนด์ระดับโลกในครั้งนี้ มะลิยังผ่านการตรวจสอบ SMETA (SEDEX Members Ethical Trade Audit) หรือระบบการจัดการคุ้มครองแรงงาน และความปลอดภัยในการทำงานที่สมาชิกทางธุรกิจทั่วโลกมีข้อตกลงร่วมกันด้วย
อายุ : 60 ปี
พ.ศ. 2565
- ทายาทรุ่นที่ 4 พิชญเทพ ยุกตะเสวี และอัญจิฎา กรรณสูต เริ่มเข้ามาบริหาร
- มะลิครบรอบ 60 ปี และยังเป็นผู้ผลิตนมข้นหวานรายใหญ่ที่สุดในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ทั้งด้านปริมาณการผลิตและการจัดจำหน่าย
- ได้รับรางวัล ‘สุดยอดผู้นำผลิตภัณฑ์อาหาร’ หรือ ‘Superbrands Thailand 2022’ ซึ่งเป็นการสำรวจความนิยมจากกลุ่มผู้บริโภคกว่า 15,000 คน ตอกย้ำแบรนด์ยอดขายอันดับหนึ่ง และได้รางวัล Marketeer No.1 Brand Thailand 2023
- ออกผลิตภัณฑ์ครีมเทียมพร่องไขมัน ตรามะลิโกลด์ ขนาด 1 ลิตร รวมถึงจัดแคมเปญชิงโชค ‘มะลิ 60 ปี แจกยิ่งใหญ่กว่า 6 ล้านบาท’
อายุ : 61 ปี
พ.ศ. 2566
- ออกผลิตภัณฑ์ข้าวโอ๊ตข้นหวาน เป็นตรามะลิที่เป็น Plant Based ตอบโจทย์เทรนด์สุขภาพและเทรนด์อาหารทางเลือก