นโยบายข้อมูลส่วนบุคคลสำหรับการใช้คุกกี้

บริษัท ทุนดี จำกัด (“บริษัท”) มีความจำเป็นต้องใช้คุกกี้ในการทำงานหลายส่วนของเว็บไซต์เพื่อรับประกันการให้บริการของเว็บไซต์ที่จะอำนวยความสะดวกในการใช้บริการเว็บไซต์ของท่าน โดยบริษัทรับประกันว่าจะใช้คุกกี้เท่าที่จำเป็น และมีมาตรการรักษาความมั่นคงปลอดภัยของข้อมูลของท่านโดยสอดคล้องกับกฎ หมายที่เกี่ยวข้อง และจะไม่เปิดเผยข้อมูลดังกล่าวให้แก่บุคคลอื่น เว้นแต่เป็นกรณีการใช้คุกกี้บางประเภทที่อาจดำเนินการโดยผู้ให้บริการภายนอก ทั้งนี้ เมื่อท่านเข้าใช้บริการเว็บไซต์ บริษัทจะถือว่าท่านรับทราบและตกลงนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลฉบับนี้แล้ว โดยบริษัทสงวนสิทธิ์ในการปรับปรุงนโยบายฉบับนี้ตามแต่ละระยะเวลาที่บริษัทเห็นสมควร โดยบริษัทจะแจ้งให้ท่านทราบถึงการเปลี่ยนแปลงดังกล่าวผ่านทางเว็บไซต์นี้... 

Always Active

Necessary cookies are required to enable the basic features of this site, such as providing secure log-in or adjusting your consent preferences. These cookies do not store any personally identifiable data.

Functional cookies help perform certain functionalities like sharing the content of the website on social media platforms, collecting feedback, and other third-party features.

Analytical cookies are used to understand how visitors interact with the website. These cookies help provide information on metrics such as the number of visitors, bounce rate, traffic source, etc.

Performance cookies are used to understand and analyze the key performance indexes of the website which helps in delivering a better user experience for the visitors.

Advertisement cookies are used to provide visitors with customized advertisements based on the pages you visited previously and to analyze the effectiveness of the ad campaigns.

คิดก่อน Trump

5 ประโยคเด็ดเรื่องภาษีจาก Donald Trump ที่ต้องการให้ America Great Again!

สัปดาห์ที่ผ่านมา คงไม่มีประเด็นอะไรที่ฮอตฮิตไปกว่าการที่ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ประกาศเก็บภาษีสากล 10% สำหรับสินค้านำเข้าทุกประเภท และภาษีแบบตอบโต้ที่แตกต่างกันไปในแต่ละประเทศ ซึ่งประเทศกว่า 50 ประเทศได้รับผลกระทบเต็มๆ ส่วนไทยเราก็โดนไปกว่า 36% 

นโยบายนี้ทำเอาทุกประเทศแตกตื่นก็จริง แต่ถ้าย้อนกลับไปในช่วงเวลาที่ผ่านมา ทรัมป์พูดถึงภาษีศุลากากร หรือ ‘tariffs’ ตลอดเวลา ด้วยตัวเขาเอง มองว่านโยบายภาษีเป็นเครื่องมือทางการเมืองสำคัญที่จะทำให้อเมริกาแก้ปัญหาขาดดุลการค้าและหนี้สินมากมายที่สะสมมานานได้

ช่วงเวลาที่มีข่าวใหม่เรื่องภาษีผุดมาไม่เว้นแต่ละวัน ตลาดหุ้นร่วงกันระนาว และยังมีเฟคนิวส์จำนวนมาก Capital ขอพาย้อนกลับไปดูคำพูดของทรัมป์ที่สะท้อนความเชื่อของเขาที่ใช้ภาษีเป็นหนึ่งในเครื่องมือที่ทำให้ America Great Again!

1. “I am a Tariff Man.”

ในปี 2018 ทรัมป์ได้ทวีตข้อความนี้เพื่อเน้นย้ำถึงความเชื่อของเขาว่าภาษีศุลกากรเป็นเครื่องมือสำคัญในการปกป้องเศรษฐกิจสหรัฐฯ และลดการขาดดุลการค้า เขาเชื่อว่าการใช้ภาษีศุลากากรจะช่วยสร้างความยุติธรรมในการค้าระหว่างประเทศได้  

ที่จริง เรื่องการใช้ภาษีเป็นเครื่องมือเสริมสร้างเศรษฐกิจของประเทศนั้น ทรัมป์เองได้แรงบันดาลใจจาก William McKinley ประธานาธิบดีคนที่ 25 ของสหรัฐอเมริกา ซึ่งมีนโยบายกีดกันทางการค้าแบบสุดโต่ง อย่างการขึ้นภาษีสูงถึง 50% ของมูลค่าสินค้านำเข้า การกระทำนี้ ทรัมป์มองว่าแมคคินลีย์นี่แหละที่ทำให้ประเทศร่ำรวยมหาศาล  

2. “To me, the most beautiful word in the dictionary is ‘tariff’.”

ระหว่างการพูดที่ Economic Club of Chicago ตัวทรัมป์เองกล่าวว่าสำหรับเขา คำว่า ‘ภาษี’ เป็นคำที่ไพเราะงดงามที่สุดในพจนานุกรม และภาษีนี่แหละจะเป็นเครื่องมือปกป้องอุตสาหกรรมและแรงงานอเมริกันได้ นั่นสะท้อนว่าทรัมป์ยกย่องภาษีเหมือนคำศักดิ์สิทธิ์ และผลผลิตของประเทศเป็นเรื่องศักดิ์ศรีของชาติ มากกว่าแค่กำไรขาดทุนเท่านั้น

3. “Whatever they tax us, we will tax them.”

จาก Economic Times ทรัมป์ได้กล่าวปราศรัยต่อที่ประชุมร่วมรัฐสภาสหรัฐฯ ว่ามาตรการภาษีตอบโต้นี้ก็เพื่อโจมตีสหภาพยุโรป, จีน, บราซิล, อินเดีย และเกาหลีใต้ ฯลฯ ที่เรียกเก็บภาษีสินค้าสหรัฐฯ สูงเกินควร ดังนั้นทรัมป์มองว่า “พวกเขาเก็บภาษีเราเท่าไหร่ เราก็เก็บเขาคืนเท่านั้น” 

เช่นอินเดียที่ทรัมป์บอกว่าเก็บภาษีสหรัฐถึง 100% และจีนก็เก็บภาษีเฉลี่ยเป็นสองเท่าของสหรัฐ ซึ่งเขามองว่าไม่เป็นธรรม และนี่เป็นกลยุทธที่ทำให้สหรัฐฯ ไม่ต้องเป็นฝ่ายรอ แต่เป็นฝ่ายรุกที่บีบให้ประเทศอื่นๆ ต้องเข้ามาเจรจากับสหรัฐด้วยตนเอง  

4. “Tariffs are about making America rich again and making America great again.”

ทรัมป์เชื่อว่าการเก็บภาษีสินค้านำเข้าจะช่วยเพิ่มรายได้ให้กับรัฐบาลสหรัฐฯ และกระตุ้นการผลิตภายในประเทศ เพราะหลักๆ แล้วเขามองว่าภาษีศุลกากรนี้จะเป็นแรงกดดันสำคัญให้บริษัทต่างๆ ย้ายฐานการผลิตกลับมาที่อเมริกา เพื่อจะได้ไม่ต้องจ่ายภาษี เขายังเสนอให้ลดภาษีนิติบุคคล จาก 21% ลงเหลือ 15%

และนี่แหละที่จะทำให้อเมริกากลับมายิ่งใหญ่อีกครั้ง 

5. “Without tariffs we wouldn’t be standing here”

ทรัมป์เชื่อว่าภาษีคือสิ่งที่ทำให้อเมริกายัง ‘ยืนหยัด’ ในเวทีเศรษฐกิจโลกได้ ยิ่งเมื่อประเทศต่างๆ รีบเข้ามาขอเจรจา เช่น สหภาพยุโรปที่เสนอข้อตกลง ‘zero-for-zero’ หรืออีกหลายสิบประเทศที่พยายามลดภาษีแลกกับการคลายมาตรการ ทรัมป์ยิ่งมั่นใจว่าภาษีคือสิ่งที่ทำให้สหรัฐฯ เป็นฝ่ายถือไพ่เหนือกว่า

ทั้งหมดเนี้เป็นเพียงบางส่วนจากปากของทรัมป์เท่านั้น ยังมีอีกหลายประโยคนั้นที่ทรัมป์กล่าวถึงภาษีซึ่งสะท้อนความคิดทางการเมืองของเขา ว่าภาษีตอบโต้ไม่ใช่แค่เครื่องมือหลักที่จะช่วยให้สหรัฐฯ มีรายได้เพิ่มขึ้น แต่เป็นแนวทางการเมืองที่เน้นการกดดัน ต่อรอง และกำหนดเกมให้สหรัฐฯ อยู่เหนือทุกคน

แม้นักเศรษฐศาสตร์จะมองในมุมตรงกันข้ามว่านี่อาจนำมาสู่ความหายนะครั้งใหญ่ และชาวอเมริกันก็ลำบากขึ้นแน่นอน เพราะจะทำให้เกิดเงินเฟ้อมหาศาล อัตราภาษีนี้ยังเข้าใกล้ระดับสูงสุดนับตั้งแต่ ‘กฎหมายภาษี Smoot-Hawley ปี 1930’ ที่เคยทำให้เกิดสงครามการค้าทั่วโลกและอาจทำให้ภาวะเศรษฐกิจตกต่ำครั้งใหญ่ หรือที่เรียกว่า Great Depression

แต่ไม่ว่าจะเห็นด้วยหรือไม่ โลกทั้งใบก็กำลังขยับ เพราะ ‘คำพูด’ และ ‘แนวคิด’ ของชายผู้บอกว่าตัวเองคือ ‘Tariff Man’

อ้างอิง

You Might Also Like